วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ผญาเขียนใหม่

ซินบ่โฮยฮำห่ง ลงท่งบ่เห็นเห็ด
ปลาบ่ฮวยโฮมทาง ซ่างไซสิหมานบั้ง
ซินบ่หมานฝาข่อง แหพายจนเซย่าง
งมแต่หอยกาบน้อย เทียวต้อนใส่ภาช์
วาสนาอ้ายตื้น บ่เห็นป่องทางใจ
เห็นแต่ฮอยนำทาง ต่างตมติดไว้
โพงมาสาวกินใส่ วางฮอยให่ปอบตื่น
กะสือนอนฮ่ำฮ้อง เหลือใจหม่อง อีพ่อโพง..แท้แหล้ว


อ้ายบ่สมเจ้าดอกหล่า พ่อแม่พาอ้ายปากก่ำ
เกิดเป็นคนต่ำต้อย อยู่ในฮั้ว ไฮ่นา
หาขุดปูปลาส้อย อยู่ในท่ง เก็บเห็ด
ผักกะเดาป่นกบ นั่นแม่นแนว พาเลี้ยง
นางนั่นคนสูงซั้น แม่เจ้าปัน ทางให้ย่าง
คนละทางกับบักอ้าย บ่มีพ้อ พบพาน
อ้ายขอหันหลังลี้ ลาก่อน ไปนอนนา
แม่นสิมีความฮัก กะบ่พาน ทางพ้อ
แนวว่าตอกลางบั้ง หอนสิคือ ไม้แก่น
ไปตามทางที่แม่เจ้า เตรียมไว้ อ้ายบ่สม...คำนางเอ้ย



เอาความจริงมากล่าวย้ำ พุทธธรรมบทเก่า

ตามตำราพระพุทธเจ้า เผิ่นเพียรเว้ากล่าวสอน
ความเจ็บตายติดอ้อนต้อน ตามแต่กระแสกรรม
แล้วแต่บุญไผทำ ต่างกัน แค่วันมื้อ
มีสองมือคือท่าน สองขา คือกันย่าง
ต่างกะต่างแต่พื้น พระพรหมแต้ม แต่งมา
สัพเพสัตตา โลเกนี่ ย่อมมีแตก ไปตามกรรม
กัมมุนา วัตตะตี โลโก นำ แล้วแต่กรรมสิพานต้อง
แม่นสิเนาว์ในห่อง หอทอง กะตามซ่าง
บ่อาจเซาพักยั้ง ให้ญืนได้ ดั่งประสงค์...แท้แหล้ว





สูติกามานำบ้าน ผอินพรมเผิ่นปั้นเหี่ย
ผู่ลางคนเผิ่นปั้น ปันให่ บักหล่องาม
เผิ่นกะกินเข่าน้ำ บักเผิ่งกะกินเข่าน้ำ มาสูงต่ำบ่เพียงกัน
ต่างหลายฉันกับเธอ ว่าแม่นควาย เฮียงซ้าง
หรือว่าบุญสมส่าง เพียงทาง ขี่ตะกั่ว...
จั่งบ่เห็นพบพ้อ ในคอซ่ำ ใส่ทอง
สีพิลาดนาทน้อง เผิ่นเบิดส่อง มองกลาย
ฮอดบ่ซายตาแนม ฝั่งนำ แต่คนโก้
บ่อยากโสควมฮ้าย อินเอ้ย มาฟังก่อน
ปั้นเผิ่งมา ให้ต่าวย้อน ปั้นเหี่ยมือแล้วต่าวย้อน
โงโค้ง มาเบิ่งแงง...แหน่เด๋อ..




สาวเอ้ย...
ให้เจ้าคองเคียนไว้ เฮือนสามน้ำสี่
อย่าสะป๋าป่อยถิ่ม วางไว้เคิ่งกลาง
ผมสลวยเรือนร่าง ฮูปฮ่างบอริบัด
อย่าได้ขัดเขินคอง ค่าดองแพงล้าน...
เฮือนซานใสสะอาดเกี้ยง งานครัวให้มันค่อง
น้ำใจใสสะอาดล้ำ น้ำคำเว้าค่องงาม
แขกคนมายามเยี่ยม เตรียมแต่งบ่เคยขัด
จั่งสิสมคนงาม คู่เมืองอีสานบ้าน
ซุมหมู่ขุนหาญห่าว สิพากันญาดแญ่ง
โญติกาฮักแพง คนสิแงงยกย่อง
นำก้น ซื่นซม...แท้แหล้ว


เพิ่นว่า...ไผผู้โลภาพ้น ผิเอาของท่าน
โทสะทำโทษให้ เสียแล้วจั่งเอา
โมหะตัวบาปฮ้าย ผิเอาของท่าน
ฉันทะเห็นแก่ได้ บ่มีฮู้บาปบุญ
คือจั่งของเฮาส่าง แฮงกายหยาดเหงื่อ...
ของของเฮาเฮ็ดไว้ แปงมื้อนับวัน
ไผผู้หมายมาหมั่น ผิเอาเก็บห่อ
เฮากะหวงดั่งด้าม ใจนั่นบ่ต่างกัน...แท้เด้




เว้าพื้นความพุฮ้าย อ้ายทีหนึ่ง บ่มีสอง
ความนิยมมองสาว เสี่ยงแนม แต่คนโก้
ป้าดจิโธคนเฮานี่ กะมีใจ ให้คิดอ่าน
บุญสมภารได้เกิดแล้ว แสนสิฮ้าย กะซ่างตาม
ฮอดยามกินข้าวน้ำ จ้ำบ่าย คือคือกัน...
เรื่องหน้าตาบ่สำคัญ อ้ายบ่เคือง อิดสาเจ้า
เว้าพื้นสาวบ่พอหน้า อย่าเดินมา ใกล้ผ่าน
อ้ายบ่เหลียวเบิ่งจ้อย คันถามอ้าย สิแล่นหนี
สาวพุดีกะไคข่อย สินำฮอย ซุบาดย่าง
แม่นบ่สนกะซ่างเจ้า สินำตื้อ อยู่บ่เซา
ห่อข้าวนำพุ้นละเจ้า แม่นสาวส่า อยู่เมืองได๋
อ้ายสิไปนำนาง จ่องพัน เอาจนได้
เห็นว่าเป็นคนไฮ้ พุฮ้ายซาย น้ำใต้ต่อน
ข้าวบ่ายกบ สิแต่งต้อน สิหาพ้อ บ่อนจั่งได๋...คำนางเอ้ย


พระพิรุนพรมพื้น โฮยฮำน้ำทั่ง
ปลาในวังหลั่งย้าย หาหม่องสิไข่วาง
กบเขียดงอยคูค้าง โคมขี่สลับเสียง
โอ๊บเอ๊บโอยครวญคราง แข่งขันพันเกี้ยว
เหลียวแลลงนากว้าง พวมไถใกล้หว่าน...
ย่านหลายเด้...ย่านแต่ฝนขาดช่วง ตายแล้งบ่ยัง
เป็นแนวได๋กันบ้าง ทางบ้านเพิ่นสิคือโต..บ่น้อ
ฝนโฮยฮำลงนา แหน่บ่น้อทางพุ้น
พากันเอาบุญบ้าน กินทานกันแล้วไป่
เลี้ยงปู่ตา บ้านผู้ข่า กะพวมแล้ว ผ่านมา...


เชื้อชาติไม้ ยางใหญ่ปลายนา
บ่แม่นยูงยางไพร เกิดกลางดงด้าว
เเก่นบ่แข็งคือไม้ ยูงยางกลางป่า
ค่าบ่สูงหลื่นล้น คือไม้ใหญ่แข็ง
อัฐสตางค์บาทแบงค์ เบี้ยบ่ผ่านมือจับ...
กบเขียดปูในนา นั่นแม่นโภชนังเลี้ยง
ความสุขมีเพียงพร้อม โญติกาตุ้มห่อ
เพียงพอพร้อมพี่น้อง มาโฮมถ้อน ฮักแพง...

ตกมาในปีนี้ หากินกะซงฝีด

เศรษฐกิจกะบ่ค้ำ เงินคำแก้วกะบ่-วน

เดือนต่อเดือนกะบ่พ้น ใช้จ่ายบ่ทันการ

เทิงค่าบิลค่าไฟ หลั่งมาโฮมถ้อน

ราคาของชาวบ้าน บ่สมกันมันตกต่ำ

อุตสาหกรรมเพิ่นตั้งไว้ กำไรล้นหลื่นทวี

ราคามันยางข้าว อ้อยโอยการเกษตร

ขายจนอิดอ่อนล้า บ่พอซื้อเพิ่นคืน

ว่าสิฟื้นกะบ่ฟื้น นับมื้อตื่มทวีหนัก

หลายปัจจัยเข้ามาพัก ตื่มทวีมาเติมซ้ำ

เวรและกรรมชาวบ้าน เกษตรกรผู้ต้อยต่ำ

รัฐบาลบ่ซ่อยค้ำ สิไปซ่นเพิ่งไผ

เฮ็ดอิหยังกะบ่ได้ ต้องทนรับกับความจน

ซุมเศรษฐีมีเงิน เพิ่นพ่องวางแผนใช้

รอสมัยกาตั้ง คะแนนเสียงเพิ่นซื้อซ่อย

เกษตรกรผู้ต่ำต้อย เลยเป็นเบี้ยอยู่บ่เซา

มันหากเป็นคือจั่งเว่า ย้อนเฮาทุกข์เงินเขิน

เพิ่นผู้มาวางแผน เพิ่นบ่สนสงสารซ้ำ

ยอมรับความจนไฮ้ ทนไปซามเพิ่นซ่อย

ให้สงสารเกษตรกรผู้ต่ำต้อย แหน่เด้อท่าน ท่านผู้มี...


ขอไขแจงแถลงเว้า เอาตำราออกมาอ่าน

เว้าเรื่องราวพุทธกาล ในตำนานเพิ่นกล่าวไว้ ไขชี้ส่องทาง

พุทธองค์แต่ก่อนครั้ง มาเนาว์ฝั่งเชตวัน

ญิงเข็ญใจได้ทุกข์มา ว่าลูกชายกำลังน้อย

โคตมีศรีสร่อย หอบลูกคอยหายาซ่อย

ยารักษาลูกอ่อนน้อย ให้คืนฟื้นต่าวมา

ยาอีหยังน้อผู้ข่า รักษาคนตายให้ฟื้นตื่น

พุทธองค์..ได้ฟังคำว่าฟื้น เลยฝืนเล่นล่วงอุบาย

โคตมีอย่าฟ้าวฮ้าย เคียดสั่นให้ทางฉัน

คันสิหายามี ให้ค่อยฟังเอาเด้อเจ้า

อย่ามัวหมองใจเศร่า สิเอายามาให้ตื่น

แนวสิเฮ็ดให้ฟื้น ให้ฟังข้อหน่อพุทโธ

ไปขอพันธ์ผักกาดโก้ มาเป็นส่วนผสมยา

ให้หาเฮือนบ่มีคน ที่เพิ่นตายในเฮือนนั่น

ว่าแล้วหันหลังฟ้าว โคตมีเทียวท่อง

ไปหม่องได๋กะบ่พ้อ เฮือนท่านที่บ่ตาย

นางจั่งสังวรได้ พระองค์กล่าวธรรมแสดง

บรรดาชาวมนุษย์คน แม่นบ่มีทางพ้น

มีหรือจนกะตายถิ่ม ตามกันปรโลก

ทุกข์โศกเพียงส่ำนั่น บ่หาญฟื้นต่าวมา

สังขาราคนเฮานี้ บ่มีจริงสิหมั่นเที่ยง

เพียงแต่เป็นขี้เถ่าแล้ว ไผสิย้องกล่าวเถิง..ให้คนย้องกล่าวเถิง..ท่านเอย


หลงคารมไฟแนนซ์ เอาเกวียนยนต์มาให้ขี่

หกเจ็ดปีเพิ่นให้ใช้ คือสิม้มส่งทัน

เดือนชนเดือนจ้อจั้น จับจ่ายหลายแขนง

ปากกะกัดตีนยัน ย่านบ่ทันไฟแนนซ์

สองสามปีกลายพ้น บืนนำ จนเอิ่กเปื่อย

เก็บอดออมห่อไว้ เงินเบี้ยบาทสตางค์

อยากซื้อหยังกะบ่ได้ หลิ่วส่องบ่หาญจับ

ตื่นขึ้นมาเทียวนับ จนว่ามืองอเงี้ยว

แลงงายสวยบ่ถามค้น ทนกินฮอดข้าวเปล่า

ไผบ่ทันได้พบพ้อ สิลองสู้ ให้คิดเอา..พี่น้องเอย