วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รวมพุทธภาษิต

พุทธภาษิตพร้อมคำอ่าน คำแปล

วิวาทํ ภยโต ทิสฺวา

วิวาทัง ภะยะโต ทิดสะหวา

การทะเลาะวิวาท มีแต่โทษภัย

นิสมฺม กรณํ เสยฺโย

นิสัมมะ กะระณัง เสยโย

ใคร่ครวญก่อนทำ ย่อมดีกว่า

นตฺถิ โทสสโม กลิ

นัตถิ โทสะสะโม กะลิ

ไม่มีโทษใด ร้ายแรงเท่าความโกรธ

อนตฺถชนโน โกโธ

อนัตถะชะนะโน โกโธ

ความโกรธ ย่อมก่อความวินาศ

โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ

โกธัง คัดตะวา สุขัง เสติ

ขจัดความโกรธได้ ย่อมอยู่เป็นสุข

โกธํ ทเมน อุจฺฉินเท

โกธัง ทะเมนะ อุดฉินเท

พึงกำจัดความโกรธ ด้วยการข่มใจ

มาโกธสฺส วสํ คมิ

มาโกธัดสะ วะสัง คะมิ

บุคคล ไม่ควรลุอำนาจความโกรธ

ขนฺติ สาหสวารณา

ขันติ สาหะสะวาระณา

ความอดทน ห้ามไว้ได้

ซึ่งความหุนหันพลันแล่น

สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา

สามัคคี วุดทิสาธิกา

ความสามัคคี มีแต่ความเจริญ

อรติ โลกนาสิกา

อะระติ โลกะนาสิกา

ความอิจฉาริษยา ทำให้โลกเสื่อม

จาคมานุพฺรูเหยฺย

จาคะมานุพรูเหยยะ

ควรเพิ่มพูน ความเสียสละ

ปฏิกจฺเจว กยิรา ยํ ชญฺญา หิตมตฺตโน

ปฏิกัดเจวะ กะยิรา ยัง ชัญญา หิตะมัตตะโน

รู้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์

ก็ควรรีบทำสิ่งนั้น

ผาตึ กยิรา อวิเหฐยํ ปรํ

ผาติง กะยิรา อะวิเหฐะยัง ปะรัง

ควรทำแต่ความเจริญ

ไม่ควรเบียดเบียนกัน

ภูตํ เสสํ ทยิตพฺพํ

ภูตัง เสสัง ทะยิตัพพัง

คนทุกคน ควรเกื้อกูลแก่กัน

ทุลฺลโภ องฺคสมฺปนฺโน

ทุลละโภ อังคะสัมปันโน

คนที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง หาได้ยาก

จเช เอกํ กุลสฺสตฺถํ

จะเช เอกัง กุลัดสัดถัง

สละสุขส่วนตน

เพื่อประโยชน์ของตระกูล

คามสฺสตฺถํ กุลํ จเช

คามัดสัดถัง กุลัง จะเช

สละสุขของตระกูล

เพื่อประโยชน์ของชุมชน

คามํ ชนปทสฺสตฺถํ

คามัง ชะนะปะทัดสัดถัง

สละสุขของชุมชน

เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

สามคฺคิยาติ ทุชฺชโย

สามัคคิยาติ ทุดชะโย

สามัคคีกันไว้ ก็ยากที่ใครจะชนะได้

อุตฺตมํ ปณิปาเตน

อุดตะมัง ปะณิปาเตนะ

ควรชนะผู้ที่สูงกว่าด้วยการอ่อนน้อม

วิกฺกเมน สมํ ชเย

วิกกะเมนะ สะมัง ชะเย

ควรชนะผู้เสมอกัน ด้วยความเข้มแข็ง

ญตฺตํ พาลสฺส ชายติ

ญัดตัง พาลัดสะ ชายะติ

ความรู้ของคนพาล เป็นความรู้เพื่อทำลาย

เสยฺโย อมิตฺโต เมธาวี

เสยโย อะมิดโต เมธาวี

มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล

น หึเส ปรํ อตฺตกาโม

นะ หิงเส ปะรัง อัดตะกาโม

ผู้ที่รักตน ก็ไม่ควรเบียดเบียนคนอื่น

สพฺเพสํ ชีวิตํ ปิยํ

สัพเพสัง ชีวิตัง ปิยัง

ชีวิต เป็นที่รักของคนทุกคน

ทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ

ทุกขิตัดสะ สักกัดจะ กะโรติ

ช่วยเหลือคนเดือดร้อน ด้วยความตั้งใจ

น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ

นะ หิ เวเรนะ เวรานิ สัมมันตีธะ

ในโลกนี้ เวรที่ระงับด้วยการจองเวร ไม่เคยมี

อมานา ยตฺถ น ตตฺถ วสตี วเส

อะมานา ยัตถะ นะ ตัตถะ วะสะตี วะเส

ที่ใดไม่ย่องย่องคนดี ใครๆ ก็ไม่ควรอยู่ที่นั้น

สติ สมฺปชญฺญ เทวฺ พหุการา

สติ สัมปะชัญญะ ทะเว พะหุการา

มีสติและสัมปะชัญญะ มีแต่ประโยชน์

สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย

สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ

สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


สุขา สทฺธา ปติฏฺฐิตา        สุขา สัทธา ปะติดฐิตา        ศรัทธาที่มั่นคงแล้ว นำสุขมาให้

มทา ปมาโท ชาเยถ         มะทา ปะมาโท ชาเยถะ       จากความมัวเมา ย่อมเกิดความประมาท

ปมาทา ชายเต ขโย         ปะมาทา ชายะเต ขะโย       จากความประมาท ย่อมเกิดความเสื่อม

ขยา ปโทสา ชายนฺติ        ขะยา ปะโทสา ชายันติ       จากความเสื่อม ย่อมเกิดโทษ

มา มโท ภรตูสภ             มา มะโท ภะระตูสะภะ         ผู้ที่ปกครอง จงอย่าได้ประมาทเลย

รกฺเขยฺยานาคตํ ภยํ          รักเขยยานาคะตัง ภะยัง       พึงป้องกันภัยที่ยังไม่มาถึง

สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ        สังเกยยะ สังกิตัพพานิ        พึงระแวง สิ่งที่ควรระแวง

ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรํ           ปุนยัง โจเรหิ ทูหะรัง           ความดี โจรขโมยลักพาไปไม่ได้

สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย       สุโข ปุนยัดสะ อุดจะโย       การสร้างสมความดี นำสุขมาให้

น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ           นะ ตัง กัมมัง กะตัง สาธุ       สิ่งที่ทำแล้วเดือดร้อนในภายหลัง สิ่งนั้นไม่ดี

ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ         ตันจะ กัมมัง กะตัง สาธุ         สิ่งที่ทำแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง สิ่งนั้นดี

สุกรํ สาธุนา สาธุ           สุกะรัง สาธุนา สาธุ              ความดี คนดี ทำง่าย

สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ          สาธุ ปาเปนะ ทุกกะรัง          ความดี คนชั่วทำยาก

ปจฺฉา ตปฺปติ ทุกฺกฏํ        ปัดฉา ตับปะติ ทุกกะตัง        กรรมไม่ดี ย่อมเผาผลาญในภายหลัง

อกตํ ทุกกฏํ เสยฺโย         อะกะตัง ทุกกะตัง เสยโย       ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า

ปาปานํ อกรณํ สุขํ          ปาปานัง อะกะระนัง สุขัง        การไม่ทำความชั่ว ให้เกิดความสุข

กตญฺจ สุกตํ เสยฺโย         กะตันจะ สุกะตัง เสยโย        ทำความดีไว้ ย่อมดีกว่า

ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ   ธัมเม ฐิตัง นะ วิชะหาติ กิตติ   เกียรติ ย่อมไม่ทิ้งผู้ตั้งอยู่ในธรรม

กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ        กุดโท ธัมมัง นะ ปัดสะติ       ผู้ที่โกรธ มักมองไม่เห็นธรรม

โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ        โกทัง คัดตะวา สุขัง เสติ       ขจัดความโกรธได้ ย่อมอยู่เป็นสุข

สีลํ กวจมพฺภุตํ              สีลัง กะวะจะมับพุตัง             ศีล เป็นเกราะคุ้มกันอย่างอัศจรรย์

สมคฺคา สขิลา โหถ        สะมัคคา สะขิลา โหถะ          จงสามัคคีและมีน้ำใจต่อกันเถิด

สมคฺคานํ ตโป สุโข        สะมัคคานัง ตะโป สุโข          ความเพียรพยายามเพื่อสามัคคีกัน ให้เกิดความสุข

ทินฺนํ โหติ สุนิพฺภตํ        ทินนัง โหติ สุนิบพะตัง          สิ่งของที่ให้ ชื่อว่าเป็นการนำออกไปอย่างดีแล้ว

อปฺปํ วา ยทิวา พหุ         อับปัง วา ยะทิวา พะหุ         เป็นคนควรแบ่งปัน แม้จะมากหรือน้อย

รตฺโย อโมฆา คจฺฉนฺติ      รัดโย อะโมคา คัดฉันติ        อย่าให้คืนวันผ่านไปเปล่า

กมฺมุนา วตฺตตี โลโก              กัมมุนา วัตตะตี โลโก                            สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม

อปฺปมาโท อมตํ ปทํ              อัปปะมาโท อะมะตัง ปะทัง                   ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย

อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ  อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง   การงานไม่คั่งค้างสับสน เป็นมงคลอันสูงสุด

โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ                      โกธัง ฆัตวา สุขัง เสติ                      ฆ่าความโกรธได้แล้ว นอนเป็นสุข

จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ                       จิตตัง ทันตัง สุขาวะหัง                           จิตที่ฝึกแล้ว นำสุขมาให้

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธม.มจารึ  ธัมโม      หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง       ธรรมนั่นแหละ รักษาผู้ประพฤติธรรม

นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา                 นัตถิ ปัญญาสะมา อาภา              แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี

นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ                        นิพพานัง ปะระมัง สุขัง                       นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ                      วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ                          คนล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร

สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ           สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ         การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง

สีลํ อาภรณํ เสฏฐํ                       สีลัง อาภะระณัง เสฏฐัง                          ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ

สุขา สทฺธา ปติฏฐิตา                    สุขา สัทธา ปะติฏฐิตา                      ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว นำสุขมาให้

สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺยโย                  สุโข ปัญญัสสะ อุจจะโย                  การสร้างสมความดี นำสุขมาให้

สฺนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํ สุปภาตํ สุหุฏ.ฐิตํ     สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง        ประพฤติชอบเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี เช้าดี รุ่งอรุณดี

ยาทิสญฺจูปเสวติ โสปิ ตาทิสโก โหติ    ยาทิสัญจูปะเสวะติ โสปิ ตาทิสะโก โหติ          คบคนเช่นใด ก็เป็นเช่นคนนั้น

น สาธุ อนิสมฺมการี      นะ สาทุ อะนิสัมมะการี            ทำการโดยไม่ใคร่ครวญ ไม่ดีเลย

ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส    ทุกโข พาเลหิ สังวาโส  การอยู่ร่วมกับคนพาล เป็นทุกข์

อมิตฺเตเนว สพฺพทา       อะมิตเตเนวะ สัพพะทา คบคนพาล เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรูตลอดเวลา

ยํ เว เสวติ ตาทิโส         ยัง เว เสวะติ ตาทิโส      คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น

ภทฺโท สปฺปุริเสหิ สงฺคโม          พัดโท สัปปุริเสหิ สังคะโม        เลือกคบหาคนดี มีแต่ความเจริญ

สุกรํ สาธุนา สาธุ          สุกะรัง สาทุนา สาทุ      ความดี คนดี ทำง่าย

ธีโร จ สุขสํวาโส          ธีโร จะ สุขะสังวาโส     การอยู่ร่วมกับบัณฑิต เป็นความสุข

ญาตีนํว สมาคโม          ญาตีนังวะ สมาคะโม    การอยู่ร่วมกับบัณฑิต เหมือนสมาคมแห่งญาติ

น ภเช ปาปเก มิตฺเต       นะ ภะเช ปาปะเก มิตฺเต ไม่ควรคบมิตรชั่ว

ภเชถ มิตฺเต กลฺยาเณ      ภะเชถะ มิตเต กัลยาเณ  ควรคบหามิตรดี

นตฺถิ พาเล สหายตา      นัตถิ พาเล สหายะตา    ความเป็นเพื่อน ไม่มีในคนพาล

ทุกฺโข พาเลหิ สงฺคโม    ทุกโข พาเลหิ สังคะโม  สมาคมกับคนพาล นำทุกข์มาให้

สมาคมกับคนพาล นำทุกข์มาให้           นะ วิสสะเส อะวิสสัตเถ            ไม่ควรวางใจ คนไม่คุ้นเคย

วิสฺสตฺเถปิ น วิสฺสเส      วิสสัตเถปิ นะ วิสสะเส  ถึงคนคุ้นเคย ก็ไม่ควรวางใจ

วิสฺสาสา ภยมนฺเวติ       วิสสาสา ภะยะมันเวติ   เพราะไว้วางใจ ภัยจะตามมา

มิตฺตทุพโภ หิ ปาปโก    มิตตะทุพโภ หิ ปาปะโก            ผู้ทำร้ายมิตร เป็นคนเลว

สุกรํ สาธุนา สาธุ          สุกะรัง สาทุนา สาทุ      ความดี คนดี ทำง่าย

อตฺถมฺหิ ชาตมฺหิ สุขา สหายา    อัตถัมหิ ชาตัมหิ สุขา สหายา    เพื่อนช่วยให้เกิดสุข เมื่อเกิดมีเรื่องราว

สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ        สาทุ ปาเปนะ ทุกกะรัง  ความดี คนชั่วทำยาก

ปจฺฉา ตปฺปติ ทุกฺกฏํ      ปัดฉา ตับปะติ ทุกกะตัง กรรมไม่ดี ย่อมเผาผลาญในภายหลัง

อปฺปํ วา ยทิวา พหุ        อับปัง วา ยะทิวา พะหุ   เป็นคนควรแบ่งปัน แม้จะมากหรือน้อย

น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ         นะ ตัง กัมมัง กะตัง สาทุ           สิ่งที่ทำแล้วเดือดร้อนในภายหลัง สิ่งนั้นไม่ดี

ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ        ตันจะ กัมมัง กะตัง สาทุ            สิ่งที่ทำแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง สิ่งนั้นดี

ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ           ธัมเม ถิตัง นะ วิชะหาติ กิดติ     เกียรติ ย่อมไม่ทิ้งผู้ตั้งอยู่ในธรรม

กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ    กุดโท ธัมมัง นะ ปัดสะติ           ผู้ที่โกรธ มักมองไม่เห็นธรรม

สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา      สะติ สับพัดถะ ปัดถิยา  สติ จำเป็นต้องใช้ในทุกๆที่

สติมโต สทา ภทฺทํ        สะติมะโต สะทา พัดทัง ผู้มีสติ เท่ากับมีสิ่งนำโชคตลอดเวลา

สติมา สุขเมธติ สะติมา สุขะเมทะติ       ผู้มีสติ ย่อมมีความสุข

สติมโต สุเว เสยฺโย        สะติมะโต สุเว เสยโย    ผู้มีสติ ย่อมดีขึ้นทุกวัน

สติ โลกสฺมิ ชาคโร        สะติ โลกัดสะมิ ชาคะโร           สติ เป็นเครื่องตื่นตัวอยู่เสมอ

รกฺเขยฺยานาคตํ ภยํ        รักเขยยานาคะตัง พะยัง พึงป้องกันภัยที่ยังไม่มาถึง

สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ     สังเกยยะ สังกิตับพานิ   พึงระแวง สิ่งที่ควรระแวง

    คำสอนในพระพุทธศาสนามีองค์ 9 ประการ ที่เรียกว่า นวังคสัตถุศาสน์ ได้แก่ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม และ เวทัลละ



พุทธศาสนสุภาษิต ได้มาจากเนื้อหาที่ปรากฎอยู่ในคำสอนดังกล่าว ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นเนื้อความสั้น ๆ ที่ทรงคุณค่า ให้ข้อคิด ข้อเตือนใจ ให้ผู้ที่ได้ศึกษาแล้ว มีความรู้ความเข้าใจ และยึดถือเป็นหลักธรรมประจำใจ เพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติ ในแนวทางที่ถูกที่ควร ตรงทาง อันจะนำไปสู่ความสุข ความเจริญงอกงามในชีวิตของตน แล้วยังเป็นการเสริมสร้างสันติสุข ในสังคมโลกอีกด้วย



พุทธศาสนสุภาษิต ณ ที่นี้ได้แบ่งออกเป็นหมวดต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกแก่การศึกษา และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีระบบ



อัตตวรรค - หมวดตน

  • อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย

ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี


อตฺตา สุทนฺโต ปุริสสฺส โชติ
ตนที่ฝึกดีแล้วเป็นแสงสว่างของบุรุษ


อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
ตนทำบาปเองย่อมเศร้าหมองเอง


อตฺตตฺถปัญฺญา อสุจี มนุสฺสา
มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด


อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ
ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น


สุทนฺโต วต ทเมถ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม
ผู้ฝึกตนดี ควรฝึกผู้อื่น ได้ยินว่าตนแลฝึกยาก


อตฺตานํ ทมยนฺติ สุพฺพตา
ผู้ประพฤติดี ย่อมฝึกตน


ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร
จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างตกหล่มถอนตนขึ้นฉะนั้น


อตฺตานเมว ปฐมํ ปฏิรูเป นิเวสเย อถญฺญมนุสาเสยฺย น กิลิสฺเสยฺย ปณฺฑิโต
บัณฑิตพึงตั้งตนไว้ในคุณอันสมควรก่อน สอนผู้อื่นภายหลัง จึงไม่มัวหมอง


อัปปมาทวรรค - หมวดไม่ประมาท

อปฺปมาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฺฐํว รกฺขติ
ปราชญ์ย่อมรักษาความไม่ประมาทไว้ เหมือนทรัพย์อันประเสริฐ


อปฺปมตฺตา น มียนฺต
ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย


อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต ปปฺโปติ วิปุลํ สุขํ
ผู้ไม่ประมาทพินิจอยู่ ย่อมถึงสุขอันไพบูลย์


อปฺปมาโท อมตํ ปทํ
ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย


อปฺปมตฺโต ปมตฺเตสฺ สุตฺเตสุ พหุชาคโร อพลสฺสํว สีฆสฺโส หิตฺวา ยาติ สุเมธโส
คนมีปัญญาดีไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาท มักตื่นในเมื่อผู้อื่นหลับ ย่อมละทิ้งคนนั้น เหมือนม้าฝีเท้าเร็ว ทิ้งม้าไม่มีกำลังไป ฉะนั้น


อุฏฺฐานวโต สติมโต สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมาการิโน สญฺญตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ
ยศย่อมเจริญแก่ผู้มีความหมั่น มีสติ มีการงานสะอาด ใคร่ครวญแล้วทำ ระวังดีแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท


กัมมวรรค - หมวดกรรม

สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคตึ
กรรมชั่วของตนเอง ย่อมนำไปสู่ทุคคติ


สุกรํ สาธุนา สาธุ
ความดี อันคนดีทำง่าย


สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ
ความดี อันคนชั่วทำยาก


ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ
ทำกรรมใดแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำนั้นแลเป็นดี


น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ
ทำกรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ดี


ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ
บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว


นิสมฺม กรณํ เสยฺโย
ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า


รกฺเขยฺย อตฺตโน สาธุํ ลวณํ โลณตํ ยถา
พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม


นานตฺถกามสฺส กเรยฺย อตฺถํ
ไม่พึงทำประโยชน์แก่ผู้มุ่งความพินาศ


อติสีตํ อติอุณฺห ํ อติสายมิทํ อหุ อิติ วิสฺฏฺฐกมฺมนฺเต อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว
ประโยชน์ทั้งหลายย่อมล่วงเลยคน ผู้ทอดทิ้งการงาน ด้วยอ้างว่า หนาวนัก ร้อนนัก เย็นเสียแล้ว


อถ ปาปานิ กมฺมานิ กรํ พาโล น พุชฺฌติ เสหิ กมฺเมหิ ทุมฺเมโธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ
เมื่อคนโง่มีปัญญาทราม ทำกรรมชั่วอยู่ก็ไม่รู้สึก เขาเดือดร้อนเพราะกรรมของตน เหมือนถูกไฟไหม้


โย ปุพฺเพ กรณียานิ ปจฺฉา โส กาตุมิจฺฉติ วรุณกฏฺฐํ ภญฺโชว ส ปจฺฉา อนุตปฺปต
ผู้ใดปรารถนาทำกิจที่ควรทำก่อนในภายหลัง ผู้นั้นย่อมเดือดร้อนในภายหลัง ดุจมาณพ (ผู้ประมาทแล้วรีบ) หักไม้กุ่ม ฉะนั้น


สเจ ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ นิคจฺฉติ โปราณกํ กตํ ปาปํ ตเมโส มุญฺจเต อิณํ
ถ้าประสบสุขทุกข์ เพราะบุญบาปที่ทำไว้ก่อนเป็นเหตุ ชื่อว่าเปลื้องบาปเก่าที่ทำไว้ ดุจเปลื้องหนี้ ฉะนั้น


สุขกามานิ ภูตานิ โย ทณฺเฑน น หึสติ อตฺตโน สุขเมสาโน เปจฺจ โส ลภเต สุขํ
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผู้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน ไม่เบียดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข


กิเลสวรรค - หมวดกิเลส

เยน สลฺเลน โอติณฺโณ ทิสา สพฺพา วิธาวต ตเมว สลฺลํ อพฺพุยฺห น ธาวติ น สีทติ
บุคคลถูกลูกศรใดแทงแล้ว ย่อมแล่นไปทั่วทิศ ถอนลูกศรนั้นแล้ว ย่อมไม่แล่นและไม่จม


ยา กาจิมา ทุคฺคติโย อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ อวิชฺชา มูลกา สพฺพา อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา
ทุคติในโลกนี้และโลกหน้า ล้วนมีอวิชชาเป็นราก มีอิจฉาและโลภเป็นลำต้น


ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส นิจฺจ ํ อุชฺฌานสญฺญิโน อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ อารา โส อาสวกฺขยา
คนที่เห็นแต่โทษผู้อื่น คอยแต่เพ่งโทษนั้น อาสวะก็เพิ่มพูน เขายังไกลจากความสิ้นอาสวะ


นิทฺทํ น พหุลีกเรยฺย ชาคริยํ ภเชยฺย อาดาปี ตนฺทึ มายํ หสฺสํ ขิฑฺฑํ เมถุนํ วิปฺปชเห สวิภูสํ
ผู้มีความเพียรไม่พึงนอนมาก พึงเสพธรรมเครื่องตื่น พึงละความเกียจคร้าน มายา ความร่าเริง การเล่น และเมถุนพร้อมทั้งเครื่องประดับเสีย


กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี อุนฺนฬา จาสมาหิตา น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต
ผู้คนหลอกลวง เย่อหยิ่ง เพ้อเจ้อ ขี้โอ่ อวดดี และไม่ตั้งมั่น ย่อมไม่งอกงามในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว


โกธสฺส วิสมูลสฺส มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ วธํ อริยา ปสํสนฺติ ตญฺหิ เฉตฺวา น โสจติ
พราหมณ์ พระอริยเจ้าย่อมสรรเสริญผู้ฆ่าความโกรธ ซึ่งมีโคนเป็นพิษ ปลายหวาน เพราะคนตัดความโกรธนั้นได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก


โลโภ โทโส จ โมโห จ ปุริสํ ปาปเจตสํ หึสนฺติ อตฺตสมฺภูตา ตจสารํว สมฺผลํ
โลภะ โทสะ โมหะ เกิดจากตัวเอง ย่อมเบียดเบียนผู้มีใจชั่ว ดุจขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ ฉะนั้น


โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ สญฺโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย ตนฺนามรูปสฺมึ อสชฺชมานํ อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา
บุคคลพึงละความโกรธ พึงเลิกถือตัว พึงก้าวล่วงสังโยชน์ทั้งปวง (เพราะ) ทุกข์ทั้งหลาย ย่อมไม่ติดตามผู้ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ไม่มีกังวลนั้น


ตญฺหา ชเนติ ปุรสํ จิตฺตมสฺส วิธาวติ สตฺโต สํสารมาปาทิ ทุกฺขา น ปริมุจฺจติ
ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยังท่องเที่ยวไป จึงไม่พ้นจากทุกข์


ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ จิตฺตมสฺส วิธาวติ สตฺโต สํสารมาปาทิ กมฺมํ ตสฺส ปรายนํ
ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยังท่องเที่ยวไป จึงยังมีกรรมนำหน้า


อิจฺฉาย พชฺฌตี โลโก อิจฺฉาวินยายุ มุจฺจต อิจฺฉาย วิปฺปหาเนน สพฺพํ ฉินฺทติ พนฺธนํ
โลกถูกความอยากผูกพันไว้ จะหลุดได้เพราะกำจัดความอยาก เพราะละความอยากเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกทั้งปวงได้


อิจฺฉา นรํ ปริกสฺสติ อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชชหา อิจฺฉาพุทฺธา ปุถู สตฺตา ปาเสน สกุณี ยถา
ความอยากย่อมชักลากนรชนไป ความอยากละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไว้ ดุจนางนกถูกบ่วงรัดไว้ ฉะนั้น


อุเปกฺขโก สทา สโต น โลเก มญฺญตี สมํ น วิเสสี น นีเจยฺโย ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทา
ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ไม่สำคัญตนว่าเสมอเขา ดีกว่าเขา หรือต่ำกว่าเขาในโลก ผู้นั้นชื่อว่า ไม่มีกิเลสเฟื่องฟูขึ้น


วิสุทฺธิ สพฺพเกฺลเสหิ โหติ ทุกฺเขหิ นิพฺพุติ
ความหมดจดจากกิเลสทั้งปวง เป็นทางดับทุกข์ทั้งหลาย


ตณฺหาย อุฑทิโต โลโก ชราย ปริวาริโต มจฺจนา ปิหิโต โลโก ทุกฺเข โลโก ปติฏฺฐิโต
โลกถูกตัณหาก่อขึ้น ถูกชราล้อมไว้ ถูกมฤตยูปิดไว้ จึงตั้งอยู่ในความทุกข์


นิราสตฺตี อนาคเต อตีตํ นานุโสจติ วิเวกทสฺสี ผสฺเสสุ ทิฏฺฐีสุ จ น นิยฺยติ
ผู้ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ย่อมไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ผู้เห็นความสงัดในผัสสะทั้งหลาย ย่อมไม่ถูกชักนำไปในทิฏฐิทั้งหลาย


มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ มูฬฺโห ธมฺมํ ปสฺสต อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โมโห สหเต นรํ
ผู้หลงย่อมไม่รู้อรรถ ผู้หลงย่อมไม่เห็นธรรม ความหลงครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น


ยสฺส นตฺถิ อิทํ เมติ ปเรสํ วาปิ กญฺจนํ มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ นตฺถิ เมติ น โสจติ
ผู้ใดไม่กังวลว่า นี้ของเรา นี้ของผู้อื่น ผู้นั้น เมื่อไม่ถือว่าเป็นของเรา จึงไม่เศร้าโศกว่าของเราไม่มี ดังนี้


ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ ลุทโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โลโภ สหเต นรํ
ผู้โลภย่อมไม่รู้อรรถ ผู้โลภย่อมไม่เห็นธรรม ความโลภเข้าครอบงำคนเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น


โกธวรรค - หมวดโกรธ

โกโธ สตฺถมลํ โลเก
ความโกรธเป็นดังสนิมในโลก


อนตฺถชนโน โกโธ
ความโกรธก่อความพินาศ


อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โกโธ สหเต นรํ
ความโกรธครอบงำนรชนเมื่อใด ความมืดมนย่อมมีขึ้นเมื่อนั้น


โกโธ จิตฺตปฺปโกปโน
ความโกรธทำจิตให้กำเริบ


โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ
ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุข


โกธาภิภูโต กุสลํ ชหาติ
ผู้ถูกความโกรธครอบงำ ย่อมละกุศลเสีย


ทุกฺขํ สยติ โกธโน
คนมักโกรธ ย่อมอยู่เป็นทุกข์


ญาติมิตฺตา สุหชฺชา จ ปริวชฺเชนฺติ โกธนํ
ญาติมิตรและสหาย ย่อมหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ


กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ
ผู้โกรธ ย่อมไม่เห็นธรรม


ปจฺฉา โส วิคเต โกเธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ
ภายหลังเมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้


โกธํ ทเมน อุจฺฉินฺเท
พึงตัดความโกรธด้วยความข่มใจ


ขันติวรรค - หมวดอดทน

อตฺตโนปิ ปเรสญฺจ อตฺถาวโห ว ขนฺติโก สคฺคโมกฺขคมํ มคฺคํ อารุฬฺโห โหติ ขนฺติโก
ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตนทั้งแก่ผู้อื่น ผู้มีขันติ ชื่อว่าเป็นผู้ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์และนิพพาน


เกวลานํปิ ปาปานํ ขนฺติ มูลํ นิกนฺตติ ครหกลหาทีนํ มูลํ ขนฺติ ขนฺติโก
ขันติ ย่อมตัดรากแห่งบาปทั้งสิ้น ผู้มีขันติชื่อว่าย่อมขุดรากแห่งความติเตียนและการทะเลาะกันได้


ขนฺติโก เมตฺตวา ลาภี ยสสฺสี สุขสีลวา ปิโย เทวมนุสฺสานํ มนาโป โหติ ขนฺติโก
ผู้มีขันตินับว่ามีเมตตา มีลาภ มียศ และมีสุขเสมอ ผู้มีขันติเป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย


สตฺถุโน วจโนวาทํ กโรติเยว ขนฺติโก ปรมาย จ ปูชาย ชินํ ปูเชติ ขนฺติโก
ผู้มีขันติ ชื่อว่าทำตามคำสอนของพระศาสดา และผู้มีขันติ ชื่อว่าบูชาพระชินเจ้าด้วยบูชาอันยิ่ง


สีลสมาธิคุณานํ ขนฺติ ปธานการณํ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา ขนฺตฺยาเยว วฑฺฒนฺติ เต
ขันติเป็นประธาน เป็นเหตุ แห่งคุณคือศีลและสมาธิ กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญเพราะขันติเท่านั้น


ขนฺติ ธีรสฺส ลงฺกาโร ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน ขนฺติ พลํ ว ยตีนํ ขนฺติ หิตสุขาวหา
ขันติเป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์ ขันติเป็นตบะของผู้พากเพียร ขันติเป็นกำลังของนักพรต ขันตินำประโยชน์สุขมาให้


น สุทฺธิ เสจเนน อตฺถิ นปิ เกวลี พฺราหฺมโณ น เจว ขนฺติ โสรจฺจํ นปิ โส ปรินิพฺพุโต
ความบริสุทธิ์ก็ดี ผู้ที่จะประเสริฐล้วนก็ดี ขันติและโสรัจจะก็ดี จะเป็นผู้เย็นสนิทก็ดี ย่อมไม่มีเพราะการชำระล้าง (ด้วยน้ำ)


นเหตมตฺถํ มหตีปิ เสนา สราชิกา ยุชฺฌมานา ลเภถ ยํ ขนฺติมา สปฺปุริโส ลเภถ ขนฺติพลสฺสูปสมนฺติ เวรา
เสนาแม้หมู่ใหญ่ พร้อมด้วยพระราชารบอยู่ ไม่พึงได้ประโยชน์ที่สัตบุรุษผู้มีขันติพึงได้ (เพราะ) เวรทั้งหลายของผู้มีขันติเป็นกำลังนั้น ย่อมสงบระงับ


จิตตวรรค - หมวดจิต

จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ
จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้


จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ
จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้


วิหญฺญตี จิตฺตวสานุวตฺตี
ผู้ประพฤติตามอำนาจจิตย่อมลำบาก


เตลปตฺตํ ยถา ปริหเรยฺย เอวํ สจิตฺตมนุรกฺเข
พึงรักษาจิตของตน เหมือนคนประคองบาตรที่เต็มด้วยน้ำมัน


ยโต ยโต จ ปาปกํ ตโต ตโต มโน นิวารเย
ก็บาปเกิดจากอารมณ์ใด ๆ พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้นๆ


อนวัฏฺจิต จิตฺตสฺส สทฺธมฺมํ อวิชานโต ปริปฺวลปสาทสฺสุ ปญฺญา น ปริปูรติ
เมื่อจิตไม่มั่นคง ไม่รู้พระสัทธรรม มีความเลื่อมใสเลื่อนลอย ปัญญาย่อมไม่บริบูรณ์


ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา เวริ วา ปน เวรินํ มิจฺ ฉา ปณิหิตํ จิตตํ ปาปิโย นํ ตโต กเร
โจรกับโจรหรือไพรีกับไพรี พึงทำความพินาศให้แก่กัน ส่วนจิตตั้งไว้ผิด พึงทำให้เขาเสียหายยิ่งกว่านั้น


อานาปานสฺสติ ยสฺส อปริปุณฺณา อภาวิตา กาโยปิ อิญฺชิโต โหติ จิตฺตมฺปิ โหติ อิญฺชิตํ
สติกำหนดลมหายใจเข้าออก อันผู้ใดไม่อบรมให้บริบูรณ์ ทั้งกายทั้งจิตของผู้นั้นก็หวั่นไหว


น ตํ มาตา ปิตา กยิรา อญฺเญ วาปิจ ญาตกา สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ เสยฺยโส นํ ตโต กเร
มารดาบิดาหรือญาติเหล่าอื่น ไม่พึงทำเหตุนั้นให้ได้ ส่วนจิตที่ตั้งไว้ดีแล้ว พึงทำเขาให้ดีกว่านั้น


ยถา อคารํ ทุจฺฉนฺนํ วุฏฐี สมติวิชฺฌต เอวํ อภาวิตํ จิตฺตํ ราโค สมติวิชฺฌติ
ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดีฉันใด ราคะย่อมรั่วรดจิตที่ไม่ได้อบรมฉันนั้น


เสโล ยถา เอกฆโน วาเตน น สมีรติ เอวํ นินฺทาปสํสาสุ น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา
ภูเขาหินแท่งทึบ ไม่สั่นสะเทือนเพราะลมฉันใด บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวในนินทาและสรรเสริญฉันนั้น


จิตฺเตน นียติ โลโก จิตฺเตน ปริกสฺสต จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส สพฺเพว วสมนฺวคู
โลกถูกจิตนำไป ถูกจิตชักไป สัตว์ทั้งปวงไปสู่อำนาจแห่งจิตอย่างเดียว


ปทุฏฺฐจิตฺตสฺส น ผาติ โหต น จาปิ นํ เทวตา ปูชยนฺติ โย ภาตรํ เปตฺติกํ สาปเตยฺย อวญฺจยี ทุกฺกฏกมฺมการี
ผู้ใดทำกรรมชั่ว ล่อลวงเอาทรัพย์สมบัติพี่น้องพ่อแม่ ผู้นั้นมีจิตชั่วร้าย ย่อมไม่มีความเจริญ แม้เทวดาก็ไม่บูชาเขา


ชยวรรค - หมวดชนะ

ชยํ เวรํ ปสวติ
ผู้ชนะย่อมก่อเวร


สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง


สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ
รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง


สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ
ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง


ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ
ความสิ้นตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง


น ตํ ชิตํ สาธุ ชิตํ ย ํ ชิตํ อวชิยฺยติ
ความชนะใดที่ชนะแล้วกลับแพ้ได้ ความชนะนั้นไม่ดี


อกฺโกเธน ชิเน โกธํ
พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ


อสาธุํ สาธุนา ชิเน
พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี


ชิเน กทริยํ ทาเนน
พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้


สจฺเจนาลิกวาทินํ
พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง


ทานวรรค - หมวดทาน

นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺห อปฺปกา นาม ทกฺขิณา
เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทักขิณาทานชื่อว่าน้อยย่อมไม่มี


วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ
การเลือกให้ อันพระสุคตทรงสรรเสริญ


พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ
คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน


ททํ มิตฺตานิ คนฺถต
ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้


ททมาโน ปิโย โหติ
ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก


สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ
ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข


เสฏฐนฺทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ


อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ อคฺคํ ปุญฺญํ ปวทฺฒติ อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ
เมื่อให้ทานในวัตถุอันเลิศ บุญอันเลิศ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุข และ กำลังอันเลิศ ก็เจริญ


อคฺคทายี วรทายี เสฏฺฐทายี จ โย นโร ทีฆายุ ยสวา โหติ ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชติ
ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ให้สิ่งที่ดี ให้สิ่งที่ประเสริฐ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศ ในภพที่ตนเกิด


ปุพฺเพ ทานาทิกํ ทตฺวา อิทานิ ลภตี สุขํ มูเลว สิญฺจิตํ โหติ อคฺเค จ ผลทายกํ
ให้ทานเป็นต้นก่อน จึงได้สุขบัดนี้ เหมือนรดน้ำที่โคนให้ผลที่ปลาย


ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาคร เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ
ห้วงน้ำที่เต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด ทานที่ให้แต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ละไปแล้วฉันนั้น


โส จ สพฺพทโท โหติ โย ททาติ อุปสฺสยํ อมตนฺทโท จ โส โหติ ธมฺมมนุสาสติ
ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ผู้นั้นชื่อว่าให้สิ่งทั้งปวง ผู้ใดสอนธรรม ผู้นั้นชื่อว่าให้อมตะ


อนฺนโท พลโท โหติ วตฺถโท โหติ วณฺณโท ยานโท สุขโท โหติ ทีปโท โหติ จกฺขุโท
ผู้ให้ข้าวชื่อว่าให้กำลัง ผู้ให้ผ้าชื่อว่าให้ผิวพรรณ ผู้ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้ความสุข ผู้ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ


อเทยฺเยสุ อททํ ทานํ เทยฺเยสุ โย ปเวจฺฉติ อาปาสุ พฺยสนํ ปตฺโต สหายํ อธิคจฺฉติ
ผู้ใดไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ แต่ให้ทานในคนที่ควรให้ เมื่อประสบปัญหา ย่อมได้พบผู้ช่วยเหลือ


ทุกขวรรค - หมวดทุกข์

สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา
สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่ง


ทฬิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก
ความจน เป็นทุกข์ในโลก


อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก
การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก


ทุกฺขํ อนาโถ วิหรติ
คนไม่มีที่พึ่ง อยู่เป็นทุกข์


ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต
ผู้แพ้ ย่อมอยู่เป็นทุกข์


อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา
ทุกข์ ย่อมไม่ตกถึงผู้หมดกังวล


ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ
การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์


อปฺปิยานญฺจ ทสฺสนํ ทุกฺขํ
การพบเห็นสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์


ธัมมวรรค - หมวดธรรม

ธมฺโม รหโท อกทฺทโม
ธรรมเหมือนห้วงน้ำไม่มีตม


ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ
ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำสุขมาให้


ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี
ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม


น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี
ผู้ประพฤติธรรม ไม่ไปสู่ทุคติ


ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ
เกียรติ ย่อมไม่ละผู้ตั้งอยู่ในธรรม


ธมฺเม ฐิตา เย น กโรนฺติ ปาปกํ
ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่ทำบาป


ธมฺมํ จเร สุจริตํ
พึงประพฤติธรรมให้สุจริต


นภญฺจ ทูเร ปฐวี จ ทูเร ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ สตญฺจ ธมฺโม อสตญฺจ ราช
เขากล่าวว่า ฟ้ากับดินไกลกัน และฝั่งทะเลก็ไกลกัน แต่ธรรมของสัตบุรุษกับ อสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น


ยทา จ พุทฺธา โลกสฺมึ อุปฺปชฺชนฺติ ปภงฺกรา เต อิมํ ธมฺมํ ปกาเสนฺติ ทุกฺขูปสมคามินํ
เมื่อพระพุทธเจ้าผู้ทำความสว่างเกิดขึ้นในโลก พระองค์ย่อมประกาศธรรมสำหรับดับทุกข์นี้


เย จ โข สมฺมทกฺขาเต ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ มจฺจุเธยฺยํ สุทตฺตรํ
ชนใดประพฤติธรรม ในธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวดีแล้ว ชนเหล่านั้นจักข้ามแดนมฤตยูที่ข้ามได้ยาก


โย อิจฺเฉ ทิพฺพโภคญฺจ ทิพฺพมายุํ ยสํ สุขํ ปาปานิ ปริวชฺ เชตฺวา ติวิธํ ธมฺมมาจเร
ผู้ใดปราถนาโภคทรัพย์ อายุ ยศ สุข อันเป็นทิพย์ ผู้นั้นพึงงดเว้นบาปทั้งหลาย แล้วประพฤติสุจริตธรรม ๓ อย่าง


อุจฉินฺท สิเนหมตฺตโน กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย นิพฺพานํ สุคเตน เทสิตํ
จงเด็ดเยื่อใยของตนเสีย เหมือนเอาฝ่ามือเด็ดบัวในฤดูแล้ง จงเพิ่มพูนทางสงบ (ให้ถึง) พระนิพพานที่พระสุคตแสดงแล้ว


จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต
พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ เมื่อรักษาชีวิตพึงสละอวัยวะ เมื่อคำนึงถึงธรรม พึงสละอวัยวะ ทรัพย์ และแม้ชีวิต ทุกอย่าง


ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ
ราชรถอันงดงามย่อมคร่ำคร่า แม้ร่างกายก็เข้าถึงชรา ส่วนธรรมสัตบุรุษย่อมไม่เข้าถึงชรา สัตบุรุษกับสัตบุรุษเท่านั้นย่อมรู้กันได้


เต ฌายิโน สาตติกา นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ
ผู้ฉลาดนั้นเป็นผู้เพ่งพินิจ มีความเพียรติดต่อ บากบั่นมั่นคงเป็นนิตย์ ยอมถูกต้องพระนิพพาน อันปลอดจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้


นาญฺญตฺร โพชฺฌาตปสา นาญฺญตฺร อินฺทริยสํวรา นาญฺญตฺร สพฺพนิสฺสคฺคา โสตฺถึ ปสฺสามิ ปาณินํ
เรา (ตถาคต) ไม่เห็นความสวัสดีของสัตว์ทั้งหลาย นอกจากปัญญา ความเพียร ความระวังตัว และการสละสิ่งทั้งปวง


สนฺต จิตฺตา นิปกา สติมนฺโน จ ฌายิโน สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสนฺติ กาเมสุ อนเปกขิโน
ผู้มีจิตสงบ มีปัญญาเครื่องรักษาตัว มีสติเป็นผู้เพ่งพินิจ ไม่เยื่อใยในกาม ย่อมเห็นธรรมโดยชอบ


ปัญญาวรรค - หมวดปัญญา

ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต
ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก


ปญฺญา นรานํ รตนํ
ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน


ปญฺญาว ธเนน เสยฺโย
ปัญญาเทียวประเสริฐกว่าทรัพย์
ปญฺญาชีวีชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ
ปราชญ์กล่าวชีวิตของผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุด


ปญฺญายตฺถํ วิปสฺสติ
คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา


ปญฺญา หิ เสฏฺฐา กุสลา วทนฺติ นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ สีลํ สิรึ จาปิ สตญฺจ ธมฺโม อนฺวายิกา ปญฺญวโด ภวนฺติ
คนฉลาดกล่าวว่าปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ประเสริฐ กว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษ ย่อมไปตามผู้มีปัญญา


ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน อตฺตโน จ ปเรสญฺจ หึสาย ปฏิปชฺชติ
คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้วย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติเพื่อเบียดเบียน ทั้งตนและผู้อื่น


มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส เจ วิปุลํ สุข จเช มตฺตาสุขํ ธีโร สมฺปสฺสํ วิปุลํ สุขํ
ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย


ปญฺญวนฺตํ ตถาวาทึ สีเลสุ สุสมาหิตํ เจโตสมถมนุยุตฺตํ ตํ เว วิญฺญู ปสํสเร
ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล ประกอบความสงบใจนั้นแล


ปาปวรรค - หมวดบาป

อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ โส โสจติ โส วิหญฺญติ ทิสฺวา กมฺมกิลิฏฺฐมตฺตโน
ผู้ทำบาป ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ ละไปแล้วก็เศร้าโศก ชื่อว่าเศร้าโศกในโลกทั้งสอง เขาเห็นกรรมอันเศร้าหมองของตน จึงเศร้าโศกและเดือดร้อน


อุทพินทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ พาโล ปาปสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ
แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำฉันใด คนเขลาสั่งสมบาปแม้ทีละน้อย ๆ ก็เต็มด้วยบาปฉันนั้น


ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิสํ นาพฺพณํ วิสมนฺเวติ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต
ถ้าฝ่ามือไม่มีแผล ก็พึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้ ยาพิษซึมเข้าฝ่ามือไม่มีแผลไม่ได้ฉันใด บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำฉันนั้น


วาณิโชว ภยํ มคฺคํ อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน วิสํ ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปริวชฺชเย
ควรงดเว้นบาปเสีย เหมือนพ่อค้ามีพวกน้อยมีทรัพย์มาก เว้นหนทางที่มีภัย และเหมือนผู้รักชีวิตเว้นยาพิษเสียฉะนั้น


ปุญญวรรค - หมวดบุญ

ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรํ
บุญอันโจรนำไปไม่ได้


ปญฺญํ สุขํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ
บุญนำสุขมาให้ในเวลาสิ้นชีวิต


สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย
ความสั่งสมบุญ นำสุขมาให้


ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ
บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า


อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ กตปุญโญฺ อุภยตฺถ นนฺทติ ปุญฺญํ เม กตนุติ นนฺทติ ภิยฺโย นนฺทุติ สุคตึ คโต
ผู้ทำบุญแล้วย่อมยินดีในโลกนี้ ตายแล้วย่อมยินดีชื่อว่ายินดีในโลกทั้งสอง เขาย่อมยินดีว่าเราทำบุญไว้แล้ว ไปสู่สุคติย่อมยินดียิ่งขึ้น


ปญฺญญฺ ปริโส กยิรา กยิราถนํ ปุนปฺปุนํ ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย
ถ้าบุรุษจะพึ่งทำบุญ ควรทำบุญนั้นบ่อยๆ ควรทำความพอใจในบุญนั้น การสั่งสมบุญนำความสุขมาให้


มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ ธีโร บุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ
ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่ามีประมาณน้อยจักไม่มีมาถึง แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด ผู้มีปัญญาสั่งสมบูญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น


สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ สยํ กตานิ ปุญฺญานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ
สหายเป็นมิตรของคนผู้มีความต้องการเกิดขึ้นบ่อยๆ บุญทั้งหลายที่ตนทำเองนั้น จะเป็นมิตรในสัมปรายภพ


ปุคคลวรรค - หมวดบุคคล

สาธุ โข ปณฺฑิโต นาม
ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล


ปฌฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน ชลํ อคฺคีว ภาสติ
บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง


อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต
บัณฑิตย่อมเว้นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์


ทนฺโต เสฎฺโฐ มนุสฺเสสุ
ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด


มหากรุณิโก นาโถ
ท่านผู้เป็นที่พึ่ง ประกอบด้วยกรุณายิ่งใหญ่


กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ
คนฉลาดย่อมละบาป


นยํ นยติ เมธาวี
คนมีปัญญา ย่อมแนะนำทางที่ควรแนะนำ


มัจจุวรรค - หมวดมฤตยู

สพฺพํ เภทปริยนฺติ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ
ชีวิตของสัตว์เหมือนภาชนะดิน ซึ่งล้วนมีความสลายเป็นที่สุด


น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ
ทรัพย์สักนิดก็ติดตามคนตายไปไม่ได้


อฑฺฒา เจว ทฬิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุ ปรายนา
ทั้งคนมีคนจน ล้วนมีแต่ความตายเป็นเบื้องหน้า


ทหรา จ มหนฺตา จ เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺติ สพฺเพ มจฺจุปรายนา
ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเขลา ทั้งฉลาด ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า


ยถา ทณฺเฑน โคปาลา คาโว ปาเชติ โคจรํ เอวํ ชรา จ มจฺจุ จ อายุํ ปาเชนฺติ ปาณินํ
ผู้เลี้ยงโคย่อมต้อนฝูงโค ไปสู่ที่หากินด้วยพลองฉันใด ความแก่และความตาย ย่อมต้อนอายุของสัตว์มีชีวิตไปฉันนั้น


ยถา วาริวโห ปูโร วเห รุกฺเข ปกูลเช เอวํ ชราย มรเณน วุยฺ หนฺเต สพฺพปาณิโน
ห้วงน้ำที่เต็มฝั่ง พึงพัดต้นไม้ซึ่งเกิดที่ตลิ่งไปฉันใด สัตว์มีชีวิตทั้งปวง ย่อมถูกความแก่และความตายพัดไปฉันนั้น


อจฺเจนติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ
กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำความสุขมาให้


มิตตวรรค - หมวดมิตร

มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร
มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน


สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ
สหายเป็นมิตรของผู้มีความต้องการเกิดขึ้นเนืองๆ


สพพตฺถ ปูชิโต โหติ โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ
ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง


มิตฺตทุพโภ หิ ปาปโก
ผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวแท้


ภริยา ปรมา สขา
ภรรยาเป็นเพื่อนสนิท


นตฺถ พาเล สหายตา
ความเป็นสหายไม่มีในคนพาล


สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ จเรยฺย เตนตฺตมโน สติมา
ถ้าได้สหายผู้รอบคอบ พึงพอใจมีสติเที่ยวไปกับเขา


วาจาวรรค - หมวดวาจา

โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ
เปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ


หทยสฺส สทิสี วาจา
วาจาเช่นเดียวกับใจ


มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ
คนเปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน


ทุฏฺฐสฺส ผรุสา วาจา
คนโกรธมีวาจาหยาบ


สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ
ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ


ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย
ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน


นาติเวลํ ปภาเสยฺย นตุณหี สพฺพทา สิยา อวิกิณฺ มิตํ วาจํ ปตฺเตกาเล อุทีริเย
ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลาก็ควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ


โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย วิจินาติ มุเขน โส กลี กลินา เตน สุขํ น วินทติ
ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมเก็บโทษด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษนั้น


สจฺ จํ เว อมตา วาจา
คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย


วิริยวรรค - หมวดความเพียร

กาลาคตญฺจ น หาเปติ อตฺถํ
คนขยันย่อมไม่พร่าประโยชน์ชั่วตามกาล


วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ
คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร


ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ
คนมีธุระหมั่นทำการงานให้เหมาะเจาะ ย่อมหาทรัพย์ได้


น นิพฺพินฺทิยการิสฺส สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ
ประโยชน์ย่อมไม่สำเร็จโดยชอบแก่ผู้ทำโดยเบื่อหน่าย


หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส ปเรติ ปริหายติ
คนที่ผลัดวันประกันพรุ่งย่อมเสื่อม ยิ่งว่ามะรืนนี้ยิ่งเสื่อม


สีลวรรค - หมวดศีล

สฺขํ ยาว ชรา สีลํ
ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชรา


สีลํ กิเรว กลฺยาณํ
ท่านว่าศีลนั้นเทียวเป็นความดี


สํวาเสน สีลํ เวทิตพฺพํ
ศีลพึงรู้ได้เพราะอยู่ร่วมกัน


สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร
ความสำรวมในที่ทั้งปวงเป็นดี


สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี
ปราชญ์พึงรักษาศีล


สุขวรรค - หมวดสุข

สพฺพตถ ทุกฺขสฺส สุขํ ปหานํ
ละเหตุทุกข์ได้เป็นสุขในที่ทั้งปวง


อพฺยา ปชฺฌํ สุขํ โลเก
ความไม่เบียดเบียนเป็นสุขในโลก


นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ
ความสุข (อื่น) ยิ่งกว่าความสงบไม่มี


นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง


อทสฺสเนน พาลานํ นิจฺจเมว สุขี สิยาํ
จะพึงมีความสุขเป็นนิตย์ ก็เพราะไม่พบเห็นคนพาล


สุขํ สุปติ พุทฺโธ จ เยน เมตฺตา สุภาวิตาํ
ผู้เจริญเมตตาดีแล้วย่อมหลับและตื่นเป็นสุข

สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโทํ
ความเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลายนำสุขมาให้


เสวนาวรรค - หมวดคบหา

วิสฺสาสา ภยมนฺเวติ
เพราะความไว้ใจภัยจึงตามมา


อติจิรํ นิวาเสน ปิโย ภวติ อปฺปิโย
เพราะอยู่ด้วยกันนานเกินไป คนที่รักกันก็มักหน่าย


ยํ เว เสวติ ตาทิโส
คบคนใดก็เป็นเช่นคนนั้น


ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส อมิเตเนว สพฺพทา
อยู่ร่วมกับคนพาลนำทุกข์มาให้เสมอไป เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรู


ธีโร จ สุขสํวาโส ญาตีนํว สมาคโม
อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ


นิหียติ ปุริโส นิหีนเสวี
ผู้คบคนเลวย่อมเลวลง


ปกิณณกวรรค - หมวดเบ็ดเตล็ด

หิริโอตฺตปฺปญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ
หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี


โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา
เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก


อรติ โลกนาสิกา
ความริษยาเป็นเหตุทำโลกให้ฉิบหาย


อโรคฺยปรมา ลาภา
ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง


กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา
กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง


สพฺพญฺจ ปฐวึ ทชฺชา นากตญฺญุมภิราธเย
ถึงให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักไม่ได้


หนนฺติ โภคา ทุมฺเมธํ
โภคทรัพย์ ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม


สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ
สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย


นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต
ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก


โภคา สนฺนิจยํ ยนฺติ วมฺมิโกวูปจียติ
โภคทรัพย์ของผู้ครองเรือนดี ย่อมถึงความพอกพูน เหมือนจอมปลวกกำลังก่อขึ้น


รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ นฺ ชีรติ
ร่างกายของสัตว์ย่อยยับได้ แต่ชื่อและสกุลไม่ย่อยยับ


อตีตํ นานฺราคเมยฺย
ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว


นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ
ไม่ควรหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง